ว่ากันว่า ยางรถคุณภาพดี ขับนิ่ม ขับเงียบ และขับแล้วไม่เหินเวลาถนนเปียกน้ำ ส่วนใหญ่มักมีราคาแพง ยิ่งบางยี่ห้อราคายาง 4 เส้นรวมกันถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว! แล้วแบบนี้คนงบน้อยจะเอื้อมถึงได้ยังไง? งานนี้ใครที่อยากใช้ยางรถดีๆ แต่มีงบน้อยไม่ต้องกังวลไป! เพราะในปัจจุบันตามท้องตลาดได้จำหน่ายยางรถยนต์มือสองราคาถูก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนงบน้อยที่อยากมีโอกาสใช้ยางดีๆ ในราคาที่จับต้องได้
แต่การเลือกใช้ยางรถมือสองแบบนี้ก็มีหลายเรื่องให้ต้องระวังอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าได้ยางรถยนต์มือสองไม่มีคุณภาพไป อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ วันนี้ Dunlop จะพาคุณไปทำความรู้จักเกี่ยวกับยางรถมือสองหรือยางเปอร์เซนต์ พร้อมบอกข้อดี-ข้อเสีย และเคล็ดลับการเลือกซื้อยางรถมือ 2 ให้ทุกคนกัน!
ยางรถยนต์มือสองคืออะไร? ใช้ดีไหม?
ยางรถยนต์มือสอง หรือ ยางเปอร์เซนต์ (Used Tires) คือ ยางรถที่ผ่านการใช้งานและถูกนำมาขายอีกครั้งหลังเอาออกจากรถยนต์คันเดิมของผู้ใช้คนแรก ส่วนใหญ่ยางรถมือสองมักจะถูกจำหน่ายในกลุ่มตลาดรถยนต์มือสองหรือร้านขายยางรถมือสองที่มีอยู่ทั่วไป โดยเหตุผลที่ทำให้ยางรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วได้รับความสนใจเนื่องจากยางรถยนต์มือสองราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อยางรถใหม่ แน่นอนว่าเมื่อมีข้อดีแล้ว ก็ต้องมีข้อเสียด้วย โดยยางรถมือสองส่วนใหญ่มักมีข้อเสียดังนี้
-
คุณภาพที่ไม่แน่นอน
เนื่องจากยางรถมือสองเหล่านี้เป็นยางที่ผ่านการใช้งานมาบ้างแล้ว ทำให้ตัวเนื้อยางเจอกับสภาพอากาศ และสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นน้ำขังบนถนน หรือพื้นถนนที่เป็นหลุม เป็นบ่อ เมื่อเจอกับปัจจัยเหล่านั้น แน่นอนว่ายางรถเหล่านี้ก็อาจเริ่มมีการสึกหรอของหน้ายางไปบ้างแล้ว ทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ไม่ดีเหมือนตอนเป็นยางใหม่ออกจากโรงงาน
-
ไม่มีการรับประกัน
ถ้าซื้อยางรถยนต์มือสอง ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการรับประกันหรือการคุ้มครองจากผู้ขาย แตกต่างจากการซื้อยางใหม่ส่งตรงจากโรงงานที่มักให้การรับประกัน อาทิ รับประกันบาด บวม เปลี่ยนให้เลยภายใน 7 วัน หรือ 100 วัน หลังซื้อยางไปใช้ เป็นต้น
เลือกซื้อยางรถมือ 2 อย่างไรให้อุ่นใจ !
จริงอยู่ที่ในการซื้อยางรถมือ 2 นั้นมีความเสี่ยงสูงและถ้าเลือกไม่ดีก็อาจอันตรายถึงชีวิตในการใช้รถบนท้องถนนได้ เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้น Dunlop ขอมาแนะนำ 5 วิธีเลือกซื้อยางรถมือ 2 ให้อุ่นใจ !
-
ดูอายุของยาง
แน่นอนว่าอายุการใช้งานของยางนับจากวันที่ผลิตนั้นสามารถอยู่ได้ 5-6 ปี อย่างไรก็ตามแต่ ถ้าเป็นยางที่ผ่านการใช้งานมาแล้วอย่างยางรถยนต์มือ 2 ไม่ควรเกิน 3 ปี เนื่องจากเป็นยางที่ผ่านการใช้งาน และนำไปสัมผัสพื้นถนนมาแล้ว ถึงแม้ว่าดอกยางจะดูเต็มอยู่ในสภาพดีก็ตาม
-
ตรวจสอบความลึกร่องยาง
ก่อนที่จะซื้อยางรถ อย่างแรกที่คุณควรทำคือตรวจเซ็กดอกยาง ว่าดอกยางยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์โดยอาจจะใช้เป็นวิธีง่ายๆ อย่างการเอาเหรียญสิบบาทมายัดที่ร่องดอกยางเพื่อดูความลึกของร่องยาง แต่วิธีนี้ก็อาจจะเสี่ยงหน่อย เนื่องจากอาจเจอยางที่ถูกนำมาแกะลายใหม่ให้มีความลึกเพิ่มขึ้นนั่นเอง ถ้าหากที่ร้านมีเครื่องมือมาตรฐานในการประเมินว่าดอกยางเหลือกี่เปอร์เซ็นต์วิธีนี้จะได้ความแม่นยำกว่า ทางที่ดีในขั้นตอนนี้เราขอแนะนำให้ใช้เวลาตรวจสอบนานสักหน่อยเพื่อความชัวร์
-
ตรวจสอบความยืดหยุ่นของยาง
นอกจากการตรวจสอบความลึกของยางแล้ว สิ่งที่ควรตรวจสอบเพิ่มเติมอีกก็คือความนุ่มของยาง โดยมีวิธีการเช็กง่ายๆ คือใช้เล็บจิกที่ยาง ถ้าจิกแล้วไม่ลงคือยางมีความแข็งและกระด้างมากเกินไป แสดงว่ายางเริ่มมีความเสื่อมตัวแล้ว ไม่เหมาะสำหรับใช้งานทางไกลหรือการขับขี่ที่ใช้ความเร็ว
-
เช็กตำหนิของยาง
ยางรถมือสองบางเส้นอาจจะรอยตำหนิบ้าง เช่น รอยปะ รอยต่อ แต่ถ้ามีตำหนิแล้วไม่ส่งผลต่อโครงสร้างยาง ไม่ทะลุไปถึงใยเหล็ก เกิดร่องรอยแค่หน้ายางเฉยๆ นั่นคงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่ถ้าตำหนิเหล่านั้นส่งผลให้โครงสร้างยางมีรูปทรงที่ผิดรูป มีความบิดเบี้ยว หรือบวม แบบนี้คงไม่ดีแน่ เพราะอาจมีผลต่อการควบคุมรถได้
-
ให้ช่างตรวจสอบ
หลังจากที่ปฏิบัติตามทั้ง 4 ข้อก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อความชัวร์และความอุ่นใจตลอดการใช้งานบนท้องถนน เราขอแนะนำให้คุณนำยางรถไปให้ช่างตรวจสอบยางอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ายางที่คุณเลือกมามีความปลอดภัยในการขับขี่
และนี่ก็คือสาระดีๆ เกี่ยวกับยางรถยนต์ที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ จริงอยู่ที่ราคายางที่ถูกนั้นทำให้ยางรถมือสองนั้นน่าสนใจ และคุณเองก็ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกใช้เป็นอย่างดีแล้ว แต่อย่าลืมว่ายางรถประเภทนี้ไม่เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว คุณต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพยางบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถด้วย หากยางมีรอยแตกร้าว ดอกยางสึกหรอ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ เพราะที่ Dunlop เราพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยางรถยนต์และบริการเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ และคำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเสมอมา